ทริปนี้จะพาท่านไปไหว้ตาไข่วัดเจดีย์ก่อนนะครับ แล้วจะขึ้นเหนือไปเรื่อยๆจากอำเภอสิชล เข้าอำเภอขนอมที่อยู่เหนือสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ ที่เที่ยวที่เช็คอินก็มีตลอดทางเลยครับ แล้วแต่ท่านจะเลือกให้พาไปเลยครับ เดี๋ยวมจะเอาสถานที่ที่สามารถไปได้มาใส่ให้ดูครับ
ตอนเช้าก็รับท่านจากสนามบินนครศรีธรรมราช (หรือจุดนัดหมายอื่นในพื้นที่ อ.เมือง) จากนั้นนำท่านเดินทางขึ้นเหนือสู่ วัดเจดีย์ อ.สิชล จากสนามบินนครศรีธรรมราชระยะทาง 50 กิโลเมตรถึงปากทางเข้า และต้องเข้าไปในซอยอีก 6.6 กิโลเมตรถึงวัดครับ)
ถนนซอยทางเข้าวัดระยะทาง 6.6 กิโลเมตรนี้ มีร้านขายของพวกของเซ่นไหว้ หุ่นไก่ หรือประทัดตลอดทางเลยครับ
เดินถัดมาอีกหน่อยก็เจอป้ายชี้บอกทางไปจุดสักการะ แก้บน - ขอพร ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ (อ่านป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษแล้ว แอบคิดนิดหนึ่งว่าฝรั่งจะเข้าใจมั้ยเนี่ย อิๆ)
ทางเดินไปขอพร ไอ้ไข่
เด็กวัดเจดีย์ มีจุดคัดกรองโควิดด้วยนะครับ วัดอุณหภูมิ มีอุโมงค์สเปรย์ฉีดฆ่าเชื้อด้วย
เจอน้องไก่เพียบเลยครับ ที่คนเอามาวางแก้บน
จะบอกว่ามันเยอะจริงๆน้องไก่มีทุกมุมเต็มวัดเลยครับ
โต๊ะสำหรับวางของไหว้ครับ
รูปตาไข่ครับ (ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยกล้าเรียกไอ้ไข่เท่าไหร่ แต่แล้วแต่จะเรียกนะครับ 555)
ที่ยืนไหว้อีกฝั่งครับ
เต๊นท์ทำบุญดอกไม้ธูปเทียน แผ่นทองคำ
ลูกนิมิตรยักษ์ครับ ใหญ่จริงๆ
มีน้องไก่ตัวใหญ่ยักษ์สองตัว จะถ่ายรูปไม่ให้มีคนนั้นแสนยากจริงๆ มองไปทางไหนก็มีแต่คนเต็มไปหมด แต่ละวันคนไปเป็นแสนๆนะครับ เยอะจริงๆ
ฝั่งตรงข้ามรูปบนคืออาคารที่ใช้สำหรับปิดทองหุ่นตาไข่ครับ
สาธุชนปิดทองกันอย่างคับคั่งเลยครับ เสียงที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ ขออะไรก็ได้สมหวังทุกอย่าง ขอได้ไหว้รับ ในตามความเชื่อและความศรัทธาของคนในพื้นที่และต่างจังหวัด ให้เวลาท่านขอพร ถ่ายรูป พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย
มุมในสุดอาคารนี้ก็เป็นพระพุทธรูปครับ
ปิดทองลูกนิมิตลูกที่ 1 ในอาคารครับ
ปิดทองลูกนิมิตลูกที่ 2 ข้างนอก อยู่หน้าอาคารครับ
ตีฆ้องเพื่อเป็นสิริมงคลครับ
ไหว้เสร็จแล้วก็เดินมาทางออกครับ
มีตู้เอทีเอ็มในวัดด้วยครับตรงทางออก
อาคารอีกหลังทางเดินทางออก มีพระเกจิอาจารย์ดังๆ คาดว่าน่าจะเอาไปประดิษฐานไว้ในอากาคารที่กำลังก่อสร้างครับ
แผงล็อตเตอรี่ เพียบเลยครับ เชิญเลือกซื้อเลขที่รักเลยครับ
มีโรงอาหารด้วยครับ เยอะเพียบเลย
รูปปั้นช้างพลายนุ้ยวัด
กำลังก่อสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ครับ (รูปนี้ถ่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ครับ) หากท่านจะจุดประทัดแก้บนก็จะมีจุดบริการหลังวัดครับให้จุดประทัด จะมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวตลอดเวลาเลยครับ
หลังจากนั้นจะพาท่านขึ้นเหนือไปเรื่อยๆครับ จากอำเภอสิชลก็เข้าสู่อำเภอขนอมครับ (อำเภอขนอมคืออำเภอที่อยู่เหนือสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช) จุที่สามารถแวะชมได้มีเยอะมากๆครับ แล้วแต่ท่านจะเลือกแวะ หรือ ไม่แวะนะครับ
เราจะเข้าสู่ถนนเลียบชายฝั่งทะเลที่ตัใหม่นะครับ ระหว่างอำเภอสิชลและอำเภอขนอมครับ ถนนเส้นนี้มีความสวยงามด้วยทัศนียภาพชายฝั่งครับ แต่ค่อนข้างคดเคี้ยวเลี้ยวลดหน่อยนะครับ สามารถแวะถ่ายรูปที่จุดพักรถได้ครับ
วิวถนนอ่าวขนอม - สิชล
จะแวะให้ถ่ายรูปตามที่ต้องการเลยครับ
วิวก็ประมาณนี้ครับ
ที่ถัดไปที่สามรถแวะได้คือ นาแม่เฒ่า ครับ สถานที่เช็คอินใหม่ของอำเภอขนอม ที่นี่สามารถหาของกินได้ครับ นั่งกินนั่งดื่มชิลๆได้เลย บรรยากาศก็ร่มรื่นดีครับ
มีจุดถ่ายรูปสวยๆหลายมุมเลครับ น่าประทับใจมากๆ
นาแม่เฒ่า อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
น่าแม่เฒ่ามีค่าเข้าด้วยครับ คนละ 20 บาท รบกวนจ่ายค่าเข้าเพิ่มเติมนะครับที่ทางเข้า
ที่ถัดไปคือเนินนางฟ้า ถ่ายรูปตรงนี้จะเห็นหาดของอำเภอขนอมอยู่เบื้องล่างครับ
ส่วนตรงนี้คือเนินเทวดาครับ อยู่ใกล้กันเลยครับกับเนินนาฟ้า
วิวที่ถ่ายจากเนินเทวดาครับ
วิวอ่าวขนอมถ่ายจากเนินเทวดา
มันมีตาข่ายที่ขึ้นไปนั่งถ่ายรูปด้วย (ต้องขออภัยที่มีนายแบบอยู่ในรูปครับ พอดีไม่มีรูปที่ไม่มีนายแบบครับตรงจุดนี้ 555 )
น้องไก่ตรงทางเข้าเนินนางฟ้าเนินเทวดาครับ อ้อ ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 20 บาทนะครับ รบกวนจ่ายค่าเข้าเองนะครับ
ที่ถัดไปคือเจดีย์ปะการัง อ.ขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชครับ เจดีย์ปะการัง ถือเป็นโบราณสถานเก่าแก่ของเมืองขนอม
เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 1000 ปี ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาธาตุ ในวัดจันทน์ธาตุทาราม เจดีย์เป็นรูปโอคว่ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 เมตร สร้างขึ้นโดยนำหินปะการัง มาจัดสร้างเป็นเจดีย์ทั้งองค์ รอบๆเจดีย์ มีพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายแดง แสดงให้เห็นว่าที่นี่เป็นแหล่งอารยธรรมทางด้านพุทธศาสนาสมัยหนึ่ง จากบนยอดเขาธาตุนี้ สามารถชมทิวทัศน์ของอ่าวท้องเนียนได้
จุดเช็คอินถ่ายรูป เจดีย์ปะการัง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
ตามตำนานกล่าวว่า ผู้มีจิตศรัทธาจากเมืองไชยา ได้รวบรวมทรัพย์สินเงินทอง และของมีค่าต่าง ๆ เพื่อไปบรรจุที่พระบรมธาตุเมืองนคร แต่ไม่ทัน เพราะพระบรมธาตุได้สร้างเสร็จเสียก่อน ผู้มีจิตศรัทธาดังกล่าว จึงได้ร่วมใจกันสร้างเจดีย์ขึ้นบนเขาธาตุ ซึ่งเป็นจุดที่พักก่อนจะไปเมืองนครศรีฯ โดยการนำปะการังที่มีอยู่ในบริเวณนั้น มาสร้างเป็นเจดีย์ทั้งองค์ เป็นรูปโอคว่ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 เมตร รอบ ๆ เจดีย์มีพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายแดง เชื่อว่าคงเป็นแหล่งอารยธรรมทางด้านพุทธศาสนาสมัยหนึ่งในบริเวณอ่าวทางตอนเหนือของคาบสมุทรนี้ อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ได้มีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ และประชาชนจาก ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ที่มีจิตศรัทธาในองค์พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราชได้นำแก้วแหวนเงินทอง และของมีค่าต่าง ๆ เพื่อไปบรรจุในองค์พระบรมธาตุนคร แต่ในระหว่างการเดินทาง เรือได้อับปาง บางส่วนรอดชีวิต และถูกคลื่นซัดมาเกยฝั่งที่นี่ เลยได้ร่วมกันสร้างเจดีย์จากหินปะการัง เพื่อบรรจุของมีค่าที่ยังเหลืออยู่ แทนการนำไปบรรจุที่พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
ต้นไม้บริเวณเจดีย์ปะการังที่คนทำบุญแล้วเอาผ้าแพรมาผูกที่ต้นนี้แล้วอธิษฐานขอให้โชคดีครับ
ที่ถัดไปที่สามรถไปเที่ยวชมได้คือสะพานไม้อ่าวเตล็ดครับ เรามากันตอนบ่ายแล้ว ถ่ายรูปตรงนี้เลยดูย้อนแสงครับ
น้ำก็ลดด้วยครับตอนบ่าย
มันก็มีแค่สะพานนี้แหละครับ แต่บางคนเขก็ถ่ายรูปแต่งรูปสวย อันนี้ถ่ายแบบปกติ ไม่ได้แต่งรูปนะครับ จะได้เห็นบรรยากาศจริง สีน้ำทะเลก็ออกขุ่นๆประมาณนี้ครับ
แต่ที่นี่ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างนะครับ คือ มีถ้ำหลสงพ่อแดง ติสโส ด้วย เดินขึ้นสะพานนี้ไปเลยครับไม่ไกลมาก
ภายในถ้ำหลวงพ่อแดง ติสโส
นมัสการหลวงพ่อแดง ติสโส
ป้ายบอกประวัติหน้าถ้ำหลวงพ่อแดง ติสโส
หลวงพ่อแดง ติสโส เกิด วันพุธ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง พ.ศ.2434 ณ บ้านเขาปุก อ.เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี เป็นบุตรของ นายแก้ว นางอ่อน ทองเรือง อุปสมบท ครั้งแรก เมื่ออายุ 21 ปี ณ วัดสำเร็จ ได้ประมาณ 2 พรรษา ครั้งที่สองอุปสมบท ณ วัดเดิม มรณภาพ คืนวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2519 รวมสิริอายุ 85 ปี พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านเด่นทาง อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุตม์ และเมตตามหานิยม
พระ ดีแห่งเมืองร้อยเกาะ "สุราษฎร์ธานี" อีกรูปหนึ่งนาม หลวงพ่อแดง ติสฺโส แห่งวัดแหลมสอ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งกิตติประวัติที่เล่าขานสืบกันมาถึงเรื่องราวแห่งอัตโนประวัติของท่านมาก ด้วยสีสันยิ่งนัก ดังเรื่องราวที่นางเจี้ยว ผู้มีถิ่นฐานอยู่ที่บ้านบางเก่า วันหนึ่งมีเหตุเดินทางไปยังอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช นางได้เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส บิณฑบาตอยู่ที่อำเภอขนอม ครั้นในวันเดียวกันนั้นได้เดินทางไปยังเกาะราบ และได้พบหลวงพ่อแดง ติสฺโส จึงแปลกใจยิ่งนัก จึงได้สอบถามชาวบ้าน ซึ่งต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อเช้าหลวงพ่อแดง ติสฺโส บิณฑบาตอยู่ที่เกาะราบมิได้ไปที่ไหน หรือ เรื่องเดินบนผิวน้ำ ที่เล่ากันว่า ปกติแล้วนั้น หลวงพ่อแดง ติสฺโส จะเดินทางด้วยเรือชักใบลำเล็กๆ ของท่าน แต่มีอยู่วันหนึ่งขณะที่หลวงพ่อแดง ติสฺโส กำลังแล่นเรืออยู่กับนายอิ่ม ซึ่งพิการขาเป๋ ขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่ระหว่างเกาะกะแตนกับเกาะสมุย เรือของท่านก็บังเกิดล่มจมลง ตรงบริเวณนั้นน้ำจะลึกประมาณไม่น้อยกว่า 7 วา หลวงพ่อแดง ติสฺโส ได้ร้องบอกให้นายอิ่มยืนขึ้น ปรากฏว่านายอิ่มสามารถยืนในน้ำได้ครึ่งร่าง ส่วนหลวงพ่อแดง ติสฺโส สามารถเดินบนผิวน้ำได้
เรื่อง ราวแห่งปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อแดง ติสฺโส ที่ยังคงเล่าขานกันยังมีอยู่อีกหลายเรื่อง ดังเรื่องที่นายชม โอชารส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหน้าเมือง มาแอบจับตามองหลวงพ่อแดง ติสฺโส ที่ชาวบ้านเล่าขานกันว่า สมัยที่หลวงพ่อแดง ติสฺโส จำพรรษาอยู่ที่วัดน้ำรอบ บริเวณรอบๆ วัดจะมีน้ำล้อมโดยรอบ การเดินทางจะต้องข้ามฟากด้วยเรือ แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อแดง ติสฺโส ท่านข้ามมาโดยไม่ต้องอาศัยเรือ และจีวรไม่เคยเปียกน้ำแต่อย่างใดเลย จึงเป็นที่สงสัยของชาวบ้านยิ่ง จึงเฝ้าจับตามองดูว่า หลวงพ่อแดง ติสฺโส ท่านข้ามฟากมาด้วยวิธีการใด วัน หนึ่งผู้ใหญ่ชม โอชารส ซึ่งแอบซุ่มเฝ้ามองดูอยู่ เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ยืนอยู่ริมฝั่งวัดน้ำรอบ แต่เพียงพริบตาเดียวหลวงพ่อแดง ติสฺโส ก็มายืนอยู่ทางด้านฝั่งเดียวกับผู้ใหญ่ชม โดยที่จีวรไม่เปียกน้ำเลย ครั้นถามไถ่หลวงพ่อแดง ติสฺโส ว่าท่านข้ามมาอย่างใด ก็ได้รับคำตอบว่า นั่งเรือมา แต่มองไปก็ไม่พบเรือสักลำ หรือเรื่องที่นายจันทร์ เพชรศรี ได้ประสบพบมา เมื่อครั้งนำอาหารไปถวายหลวงพ่อแดง ติสฺโส ที่วัดแหลมสอ เมื่อเปิดประตูกุฏิไปหาพบเห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ไม่ จึงเอาปิ่นโตแขวนไว้ที่หน้ากุฏิแล้วนั่งคอยก็ไม่เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส มาสักที จึงได้ไปปลดปิ่นโตเพื่อนำไปไว้ในกุฏิ เมื่อเปิดประตูกุฏิก็เห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส นั่งอยู่ ครั้นถามท่านก็ตอบว่าไม่ได้ไปไหนนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
อีกราย หนึ่งที่ประสบพบเห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส ล่องหนหายตัว คือ นายนอบ ทวยเจริญ และพรรคพวก ได้พบหลวงพ่อแดง ติสฺโส บริเวณแหลมละไม ซึ่งท่านได้มาให้คนเลื่อยไม้เพื่อต่อเรือระมาด ตัวท่านนั่งอยู่บริเวณปากถ้ำ นายนอบ ทวยเจริญ กับเพื่อนๆ เห็น จึงขึ้นไปเพื่อจะถามไถ่ถึงควายชนว่าตัวไหนจะชนะ เพื่อจะได้ไปแทงพนัน แต่พอไปถึงบริเวณที่ท่านนั่งอยู่กลับไม่พบเห็นหลวงพ่อแดง ติสฺโส แม้จะตามหาทั่วบริเวณก็หาพบไม่ หรือแม้แต่การถ่ายรูปหลวงพ่อแดง ติสฺโส หากไม่ขออนุญาตท่านเสียก่อน ก็ไม่สามารถถ่ายติดรูปท่านได้ นับเป็นที่แปลกอัศจรรย์ และมีผู้พบประสบมาหลายรายแล้ว (ข้อมูลอ้างอิงจาก : bp.or.th)
หากท่านสนใจทริปนี้และอยากให้ผมพาไปเที่ยว รบกวนแอดไลน์ QR Code ด้านล่างนี้ครับ
จองทริปนี้แอด QR Code หรือ ไลน์ไอดี : tournakhonsi หรือโทร 061 906 7145
ใครเบื่อๆอยากเที่ยว นครศรีธรรมราช เที่ยวกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ไปกับรถตู้ VIP 10 หรือ 12 ที่นั่ง ขอเชิญชวนเลยครับ
- ทริปนี้ผมคิดแค่ 3000 บาทครับ
ราคานี้รวมน้ำมันแล้วนะครับ (รับเงินสดนะครับ รูดบัตรไม่ได้)
โฉมหน้ารถตู้ประมาณนี้ครับ VIP 12 ที่นั่ง
รับส่งจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช หรือสนามบินนครศรีธรรมราชได้เลยครับ ถ้าบินมา แจ้งเที่ยวบินผมในไลน์ได้เลย (เดินทางเที่ยวบินเช้าๆหน่อยก็ดีนะครับ จะได้เหลือเวลาเที่ยวเยอะๆ ทัวร์นี้เช้าไปเย็นกลับสนามบินนครศรีธรรมราชยังได้เลยครับ)
|
• ตารางเที่ยวบินแนะนำ |
||||
|
สายการบิน |
ดอนเมือง -
นครศรีธรรมราช |
นครศรีธรรมราช -
ดอนเมือง |
||
|
เวลาออก |
เวลาถึง |
เวลาออก |
เวลาถึง |
|
|
นกแอร์ |
06.00 |
07.10 |
20.35 |
21.40 |
|
แอร์เอเชีย |
06.55 |
08.15 |
20.05 |
21.10 |
แต่ถ้าไม่อยากกลับดึกมากก็มีเที่ยวบินเย็นๆครับ แต่อาจต้องทำเวลาทัวร์หน่อย
|
• ตารางเที่ยวบินแนะนำ |
||||
|
สายการบิน |
ดอนเมือง -
นครศรีธรรมราช |
นครศรีธรรมราช -
ดอนเมือง |
||
|
เวลาออก |
เวลาถึง |
เวลาออก |
เวลาถึง |
|
|
นกแอร์ |
06.00 |
07.10 |
17.40 |
18.50 |
|
แอร์เอเชีย |
06.55 |
08.15 |
16.15 |
17.45 |
|
ไทยไลอ้อนแอร์ |
08.15 |
09.35 |
18.25 |
19.45 |
รบกวนจองล่วงหน้าสัก 2- 3 วันนะครับจะได้จัดคิว เพราะรับลูกค้าได้แค่วันละ 1 ชุดครับ
ในแต่ทริปรบกวนหาข้าวกินเองนะครับ คือมีเวลาให้กิน หาร้านให้ หรือจะไปหาร้านเองก็ได้หมดครับ ไม่ต้องเลี้ยงคนขับ คนขับรถหาข้าวกินเองครับ
คันนี้ VIP 10 ที่นั่งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น